กลอน8

รวมกลอนฉันทลักษณ์ มากมายเช่น กาพย์ยานี,ฉันท์,โคลงสี่สุภาพ,กลอนแปด เฉพาะที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้ว ให้เลือกชม

เป็นสองมืออุ้มชูเลี้ยงดูลูก เป็นสายใยพันผูกคอยห่วงหา

เป็นสองมืออุ้มชูเลี้ยงดูลูก      เป็นสายใยพันผูกคอยห่วงหา
เป็นอ้อมกอดอบอุ่นค้ำจุนมา  เป็นสายตาห่วงใยใคร่อาทร

ยามเจ็บไข้เฝ้าดูแลด้วยชีวิต     ยามพลั้งผิดท่านอบรมคอยบ่มสอน
ยามเหนื่อยหน่ายกำลังใจไม่สั่นคลอน     ยามใดใดยังอาทรไม่เปลี่ยนแปร

ด้วยความรักของพ่อที่ยิ่งใหญ่      ด้วยหัวใจสะอาดใสเป็นแน่แท้
ด้วยชีวิตเพื่อลูก .. เฝ้าดูแล      ด้วยสองมือไม่ผันแปรเป็นอื่นใด

ชายคนหนึ่ง ทำทุกอย่าง ไม่เคยบ่น ทั้งตากแดด ตากฝน ยอมทนหนาว

ชายคนหนึ่ง ทำทุกอย่าง ไม่เคยบ่น ทั้งตากแดด ตากฝน ยอมทนหนาว เพื่อความหวัง ที่สดใส สุขสกาว ให้ลูกชาย ลูกสาว ได้เล่าเรียน แม้ต้องแลก กับหยาดเหงื่อ สักกี่หยด แม้ต้องควัก สตางค์หมด จนเป็นหนี้ ไม่เคยท้อ หวังแค่ลูก ได้จบตรี แต่ลูกสิ กับชั่ว จนลืมตน ได้แต่ขอ เงินท่าน ไม่เคยขาด เอาไปใช้ เรื่องอุบาท จนหมดสิ้น ไม่เคยคิด ไม่เคยนึก ได้แต่ชิน ชินกับการ ฟุ่มเฟือย จนเรื่อยมา แล้วสุดท้าย ความเจ็บปวด มันหวนกลับ คนที่รับ นั้นคือพ่อ ใช่ไหมหนา ต้องมานั่ง ร้องไห้ เสียน้ำตา พ่อเร่งหา ลูกล้างผลาญ หมั่นทำลาย จนวันหนึ่ง คิดได้ ในที่สุด แต่เวลา กับหยุด ฝันสลาย ท่านไม่ได้ อยู่กับเรา ไปจนตาย กว่าคิดได้ มันคงสาย ไม่หวนคืน

พระภูมิพล ทรงมอบไว้…ให้แผ่นดิน

จากพุทธ…ปรัชญา…นำมาใช้
มอบแด่ปวง…ชนชาวไทย…ไปทั่วหล้า
“เศรษฐกิจพอเพียง” เด่นชัด…เป็นปรัชญา
แนวคิดทรง…คุณค่า…พาก้าวไกล

ให้รู้จัก…ใช้ชีวิต…มิผิดหลัก
ให้ประจักษ์…มัธยัสถ์…อัชฌาสัย
ความพอดี…ไม่ก้าวล่วง…ทุกข์ปวงใด
“พระภูมิพล” ทรงมอบไว้…ให้แผ่นดิน

ผืนดิน พ่อสร้าง ความชุ่มชื้น ท้องน้ำพ่อหยิบยื่น สะอาดสี

….ผืนดินแห้งผาก…ขาดน้ำ…
พ่อเดินย่ำเหยียบข้าม…ร่างสถาน
ก่อร่างสร้างเขื่อน…ไม่นานน้ำมาเยือน…ชลประทาน
ดินแห้งผากวันนั้น…สร้างเมล็ดข้าวนับล้าน…ให้เก็บกิน…

…ผืนน้ำเน่าเสีย…เกินเยียวยา…
พ่อเดินผ่านเห็นเต็มตา…หมดทั้งสิ้น
ร่างแบบกังหันน้ำ…เติมอากาศให้ตาม…ได้ยิน
ชัยพัฒนาหมุนริน…หมดปัญหาน้ำสิ้น…ที่เคยมี

…ผืนฟ้าไร้ฝน…โปรยปราย…
พ่อเดินผ่านผืนทราย…อ่อนล้า…
หยาดน้ำมาจากไหน…พ่อคิดเอาไว้เรื่อยมา…
ไม่นานฝนเทียมหล่นจากฟ้า…สร้างแผ่นดินชุ่มชื้นทั่วหล้า…ปฐพี…

…ผืนดิน..พ่อสร้าง…ความชุ่มชื้น…
ท้องน้ำพ่อหยิบยื่น….สะอาดสี
แผ่นฟ้าที่แห้งผาก…พ่อสร้างฝนให้จาก…สองมือที่มี
แผ่นดินท้องน้าแผ่นฟ้าที่นี่…เกิดจากพระคุณพ่อองค์นี้…องค์เดียว…

(ฌลา สมาชิก klonthaiclub.com)

ถวายบังคมเทิดไท้ องราชันย์

๐ ถวายบังคมเทิดไท้…………….ราชันย์
คุณะ ธ อนันต์……………………..เทียบฟ้า
ทวยราษฎร์สุขเกษมสันต์…………ถ้วนทั่ว
ธ ท่านคือขวัญหล้า……………….ปกเกล้าชาวสยาม

๐ พระนามพระเกียรติก้อง………..เกริกไกร
“ภูมิพล” ขจรไป…………………..ทั่วด้าว
คือหลักแห่งธงชัย…………………ปวงเหล่า ชนเฮย
ทูนเทิดพระเหนือเกล้า…………….เกศน้อมถวายพระพร

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า นางสาวหทัยชนก
สมาชิกบ้านกลอนไทย

อนิจจัง

มืดครึ้มกระหึ่มทิศ   ฟ้าลิขิตสายลมผัน
อบอ้าวคลุกเคล้ากัน   ลมกรรโชกโบกพัดพา
เมฆหมอกบอกสลัว   มืดพันพัวมัวผวา
ต้นตาลนานนับมา   ยังยืนต้นบนพื้นดิน

เดี๋ยวมืดเดี๋ยวกลับส่าง   สู่หนทางสมถวิล
วิหกผกหากิน    พื้นนาไร่หายโอดครวญ
โลกนี้บ่แน่นอน   เดี๋ยวเย็นร้อนกลับแปรผวน
โอ้ฟ้าสิมาปรวน   อนิจจังมิยั่งยืน

กระจกเงา

กระจกเงา…สะท้อน…ความเป็นจริง
เรื่องทุกสิ่ง…ชัดเจน…เด่นตรงหน้า
ไม่มีใคร…หลอกได้…ใต้แววตา
เลวชั่วช้า…ต่ำทราม…ตามใจตน

หลอกใคร – ใคร…หลอกได้…หลอกไปเถิด
อย่าเตลิด…หลอกตัว…มัวหมองหม่น
หลอกใคร – ใคร…หลอกได้…เว้นใจตน
เกิดเป็นคน…เลว – ดี…อยู่ที่ใจ

การกระทำ…เปรียบดั่ง…กระจกเงา
ฉายสะท้อน…ความเขลา…ของเราได้
คนคิดดี…ทำดี…ที่จิตใจ
แสดงออก…บอกได้…ในท่าที

คนคิดชั่ว…ทำชั่ว…ด้วยตัวเขา
กระจกเงา…สะท้อน…ตอนวิถี
คนทำดี…ต้องรับ…กลับผลดี
คนชั่วไม่ -. อาจหนี…ลี้ผลกรรม

Lookaew (กลอนชนะเลิศ มิ.ย.52)