กลอนเหงา

รวมกลอนเกี่ยวกับ กลอนเหงา,กลอนคนเหงา,กลอนเหงาใจ เฉพาะที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้ว ให้เลือกชม

ฝนตกมา ทีไร ใจใยเศร้า

ยามฝนโปรย โรยริน ทำดินชื้น
แต่ฉันกับ สะอื้น นอนร้องไห้
ต้องนอนเศร้า ลำพัง เจ็บปวดใจ
ไม่มีใคร เหลียวแล แพ้ชะตา
– – – – – –
ฝนตกมา ทีไร ใจใยเศร้า
หรือเพราะเรา ยังด้อย วาสนา
จึงขาดคน มานั่ง คอยสบตา
จึงได้แต่ มองฟ้า วันฝนริน
– – – – – –
ได้ยินคน เคยบอก เอาไว้ว่า
เหตุที่ฝน ตกมา เพราะฟ้าเศร้า
ฟ้าเสียใจ จึงหลั่งฝน มาบรรเทา
เพื่อระบาย ความเหงา ที่ฟ้ามี

น้ำเน่าเงาจันทร์

อยากรู้ว่าเธอเหงาบ้างหรือเปล่า

อยากรู้ว่าเธอเหงาบ้างหรือเปล่า
อยากรู้ว่านอนหนาวอยู่บ้างไหม
แต่พอรู้ว่าข้างเธอไม่มีใคร
เอาไหมเดี๋ยวคืนนี้จะไปนอนใกล้ๆเธอ

เจ้าหญิงเม็ดทราย กับ เจ้าชายพระจันทร์

หลับตาลงน่ะ…คนดี
คืนนี้มีนิทานจากฟากฝัน
เจ้าหญิงเม็ดทราย กับ เจ้าชายพระจันทร์
เธอเคยได้ฟังเรื่องราวเหล่านั้นบ้างไหม?
–  –  –  –  –  –
ครั้งหนึ่งในดินแดนแห่งโลกกว้าง
มีผืนทะเลอ้างว้างกับฟ้าใส
ทั้งสองอยู่ห่างกันเหมือนแดนฝันห่างไกล
ไม่อาจอยู่ใกล้ ไม่อาจผูกพัน
–  –  –  –  –  –
เจ้าหญิงเม็ดทราย…ช่างเหงา
แอบรัก เจ้าชายพระจันทร์เศร้า…ช่างฝัน
ในค่ำคืนเงียบสงบ ทุกวัน
เจ้าหญิงได้แต่มองอย่างเงียบงัน..เดียวดาย
–  –  –  –  –  –
ท้องทะเล ผู้อ่อนโยน
จึงทอดตัวไปจนไกลโพ้น..ลับหาย
จนปรากฎเส้นขอบฟ้า แสนไกล
จรดฟ้ากับทะเลไว้ใกล้กัน
–  –  –  –  –  –
เจ้าหญิงเม็ดทรายจึงล่องไปในทะเล
ร่อนเร่ไปตามแดนแห่งฝัน
ไปจนถึงเส้นขอบฟ้าจรดพระจันทร์
แล้ว ณ ที่นั้นความผูกพันก็เบ่งบาน
–  –  –  –  –  –
เจ้าหญิงเม็ดทราย เจ้าชายพระจันทร์
อบอุ่นในคืนวันอันอ่อนหวาน
และเรื่องราวที่เกิดขึ้นคือ..ตำนาน
ว่าทำไมฉันจึงผ่านเข้ามา…รักเธอ

(:ยังแคร์ จาก Thaipoem.com)

เปลวเทียนค่อย ๆ หมดไป แต่เหงาในใจกลับเติมเต็ม

นั่งมองเปลวเทียน
ที่มันลุกเวียนมอดไหม้
เป็นความเงียบเหงาของแสงไฟ
ซึ่งไม่มีใครแลเห็นมัน
หัวใจกับเปลวเทียน
จึงเวียนกันแอบร้องไห้
เปลวเทียนค่อย ๆ หมดไป
แต่เหงาในใจกลับเติมเต็ม

ดอกคูณร่วงลงแล้วอย่างแผ่วเบา เจ็บและเศร้า..หัวใจเอย..ไม่เคยลืม

ดอกคูณคูณดอกอยู่เต็มต้น
เหมือนแกล้งคูณความหมองหม่นให้คนผิด
คูณอาทรห่วงหาเป็นยาพิษ
ฆ่าให้ตายทีละนิดทีละนิดเมื่อคิดถึง
–  –  –  –  –  –
เป็นความจริงที่เหมือนฝันอันยิ่งใหญ่
เธอผ่านมาให้ผูกพันในวันหนึ่ง
คนหัวใจแตกหักได้พักพึ่ง
และซึมซับความซาบซึ้งซึ่งห่วงใย
–  –  –  –  –  –
เธอให้..ให้และให้เกินใจคาด
จนฉันขลาดที่จะรับกับการให้
อาจเป็นคนว่างเปล่าเหงาเกินไป
จึงไม่มีอะไรจะให้แทน
–  –  –  –  –  –
กลัวเหลือเกินกลัวเธอผิดหวัง
จึงต้องสั่งหัวใจให้หนักแน่น
ด้วยความดีที่ปรากฎยากทดแทน
ความอบอุ่นก็มากแสนแห่งราคา
–  –  –  –  –  –
สุดท้ายยังซ่อนเร้นความเป็นฉัน
เหมือนไม่เห็นความผูกพันอันมากค่า
ค่อย ๆ เดินออกห่างอย่างช้า ๆ
ปล่อยน้ำตาให้รินไหลอย่างเบา ๆ
–  –  –  –  –  –
เพราะรักมากจึงเงียบหายเหมือนตายจาก
แม้ใจอยากจะมาหาเวลาเหงา
ดอกคูณร่วงลงแล้วอย่างแผ่วเบา
เจ็บและเศร้า..หัวใจเอย..ไม่เคยลืม

เพียงออ

…เพียงลมโบก…พัดเบา…ให้เหงาจิต…
…ใบไม้ปลิด…ปลิวร่อน…ลงจากก้าน…
…ไผ่ต้นน้อย…ลู่ตาม…อย่างสุดทาน…
…เอนเอียงตาม…ลมผ่าน…ทุกคราไป…

…บางครั้งก่อ…กำเนิด…ให้เกิดเสียง…
…สายลมเพียง…พัดใบ…ให้โบกไหว…
…ชวนใจเศร้า…โศกศัลย์…ถึงคนไกล…
…ว่าวันใด…จึงได้…เธอกลับคืน…

…พายุพัด…กระหน่ำ…ซ้ำลมซัด…
…ต้นไผ่ฤๅ…ยืนหยัด…ไม่อาจฝืน…
…หักลงมา…สู่ดิน…ดั่งกองฟืน…
…ก้มหยิบไม้…จากพื้น…ทั้งน้ำตา…

…นำมาเหลา…ให้เรียบ…ดูงามสวย…
…เจาะรูด้วย…ความคิด…คำนึงหา…
…เสียงจากไม้…เคยเศร้า…เหงาอุรา…
…วันนี้มา…เถิดฉัน…จะเป่าแทน…

…หวังให้เสียง…ขลุ่ยครวญ…ลอยไปถึง…
…ใครคนหนึ่ง…ซึ่งฉัน…เฝ้าหวงแหน…
…เมื่อเราอยู่…ต่างภพ…จบดินแดน…
…ปรารถนา…เหลือแสน…จะพบกัน…

…หากวันใด…ได้ยิน…เพลงขลุ่ยผิว…
…แว่วข้ามทิว…เขาสูง…ดุจความฝัน…
…นั่นคือความ…ในใจ…นับร้อยพัน…
…ที่ตัวฉัน…ส่งผ่าน…มากับลม…

(Alpha บ้านกลอนไทย)